1111111111111


เว็บใหม่ที่ผมขอใช้ฟรีครับ ภาวนาอยู่ว่าวันดีคืนดีข้อมูลคงไม่หายเหมือนเว็บอื่น

วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ชาวบ้านป่าจะเรียกตาว่า อีพ๋อ


กรุณาใช้พิจารณญาณในการอ่านนะครับ ความคิดใครความคิดมันนะคงไม่ว่ากัน หรือถ้ามีความคิดเห็นยังงัยก็นำเสนอได้นะครับ


สวัสดีครับวันนี้วันเสาร์ชาวบ้านป่าอยู่ที่หอพัก หลังตื่นนอนก็เลยขอบริหารสมองโดยการเขียน Blog ซักหน่อย พอดีช่วงนี้ที่หอพักที่ชาวบ้านป่าพักอยู่มีนักศึกษาเวียดนามมาพักอยุ่ใหม่ เพิ่มอีก 8 คน ก่อนหน้าที่พักอยู่แล้วก็จะ 20 ได้ ชาวบ้านป่าจึงได้ถามรุ่นพี่ชาวเวียดนามว่าแล้วพวกเราได้คุยกับน้องหรือยังส่วนมากจะบอกว่าคุยเรื่องเวียดนามที่บ้าน ถ้าเรื่องวิถีที่นี้ก็ได้แต่แนะนำโรงอาหาร






เพลงที่เกี่ยวข้องจ้า http://www.4shared.com/file/128983959/bce43fc0/-_online.html?s=1


ชาวบ้านป่าอาจคิดมากไปเองมั่ง ชาวบ้านป่าได้แต่สงสัยว่าเขาไม่แนะนำวัฒธรรมองค์กรที่น้องเขาๆมาอยู่ใหม่เลยเหรอ หรือวิถีชิวิตที่เปลี่ยนไปอยุ่ที่เวียดนามเขาอาจสบาย เพราะส่วนมากมีฐานะแต่มาอยู่นี้เขาต้องพึ่งตนเองและเพื่อนๆ (แต่ก็อย่างว่าแหละครับเขายังเด็ก กลุ่มที่มาใหม่ก็มาเรียน ปริญญาตรี ที่ประเทศไทย) จะให้ประธานหอคุยให้แนะนำ ชาวบ้านป่าก็คงคิดว่าคงไม่ได้เพราะคงคุยกันไม่รุ้เรื่อง ภาษาเวียดนามกับภาษาไทย มาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ชาวบ้านป่าก็เหมือนกันตอนนี้ได้รับหน้าที่ต้องมาอยู่ในดินแดนถิ่นผู้ไทย (ราชบัณฑิตใช้คำว่า ผู้ไทย นะครับ) แต่ส่วนมากเขียนเขียนคำว่า ภูไท กัน ไม่รุ้ว่าใช้ต่างกันยังงัยรบกวนผู้รู้ชี้แจงด้วยนะครับ มาอยุ่แล้วรู้สึกว่าคนในตัวเมืองหรือ นศ. ที่มาเรียนจะเว้าภาษาไทยกัน อดเสียดายภาษาภูไท (ตกลงจะใช้ภูไท หรือผู้ไทย 55555 ชาวบ้านป่าคิดเองว่าถูกหมดทั้ง 2 คำนะครับขอใช้ผสม 55555)

เข้าเรื่องกันดีกว่าครับ ชาวบ้านป่ามาอยุ่ในแดนภูไทยอมรับว่าภาษาภูไทเพราะดี ภาษาญ้อก็เพราะนะครับ มีหลายคำที่คล้ายๆภาษาคำเมือง (ส่วนชื่อเสียงด้านความสวยของสาวภูไทชาวบ้านป่าคิดว่าก็เหมือนชนเผ่าอื่นแหละครับ ถ้าหากสาวภูไทสวยที่สุด นางสาวไทยเข้าคงไม่ประกวดกันหรอก 5555555 พูดเล่นนะครับ) พอดีช่วงวันหยุดก่อนหน้านี้้ชาวบ้านป่าได้กลับบ้านป่าบ้านดอย และได้นำซีดีเพลงภูไท ไปฝากตา (ชาวบ้านป่าจะเรียกตาว่า อีพ๋อ แต่หลานๆคนอื่นจะเรียกตาว่า พ๋อใหญ่) อีพ๋อเลี้ยงชาวบ้านป่ามาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อกับแม่ต้องทำงาน อีพ๋อตอนนี้อายุเยอะแล้วครับ พออีพ๋อได้ซีดีไปฟัง ชาวบ้านป่าก็ไปสวน ตอนเย็นกลับมาคุยกับอีพ๋อ แกชอบเพลงที่เปิดใน Blog นี้มากที่สุด อีพ๋อว่ามันลามกดี ฟังแล้วบ่อซีเรียส (อีพ๋อจะอินเตอร์หน่อย บางครั้งจะใช้ภาษาปะกิต) อีพ๋อไม่ได้เรียนหนังสือครับ แต่อาจเนื่องมาจากประสบการณ์ (อายุจะ 90 ปีแล้วครับ) และสื่อทีวีต่างๆก็เลยพูดอังกฤษบ้าง ที่อีพ๋อว่ามันลามกาดีไม่ใช่ อีพ๋อ ของชาวบ้านป่าเป็นคนลามกนะครับ อีพ๋อเล่าต่อว่า

สิ่งทุกสิ่งสิ่งทุกอย่าง มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่น ขี้ รุ้ใหมว่าขี้ดีใหม (ขี้เหม็นๆนี้แหละ) ชาวบ้านป่าบอกว่าไม่ดี เพราะมันเห็มน เป็นสิ่งสกปรก อีพ๋อบอกต่อว่าแล้วถ้าเอาขี้ไปทำเป้นปุ๋ยหล่ะ ชาวบ้านป่าอึ้งเลยครับ อีพ๋อถามต่อว่า น้ำหล่ะ คนเราทุกคนต้องกินน้ำใช่ใหม ชาวบ้านป่าได้แต่ตอบว่าครับ อีพ๋อบอกว่า แสดงว่า น้ำเป็นสิ่งดีใช่ใหม ชาวบ้านป่าได้แต่ตอบว่าครับ อีพ๋อบอกต่อว่า แล้วข่าวต่างๆที่เกี่ยวกับน้ำที่มีผู้คนเสียชิวิตมีใหม ชาวบ้านป่าได้แต่ตอบว่ามีครับ เช่นน้ำท่วม

อีพ๋อบอกต่อว่า มีดำเราจึงรู้ว่าขาว มีขาวจึงรู้ว่าดำ มีต่ำจึงรู้ว่ามีสุง มีหุ่ง (หุ่งแปลว่าสว่าง) จึงรู้ว่ามีมืด มีจืดจึงรู้มีเค็ม มีเข็มจึงรู้ว่าสมุทรกว้าง

อีพ๋อบอกต่อว่า ภูมิปัญญาอีสานเช่นสอย จะพยายามพูดสองแง้สองงาม เพื่อให้ตลก จะได้ไม่ซีเรียส แค่เฮ็ดงานก่ะเหมือยแล้ว ทิไปซีเรียสอีหยัง จึงมีภูมิปัญญาในการทำให้ลืมเหนื่อยได้บ้างก็เลยพยายามพูดให้ตลก จะเห็นตามขบวนแห่ต่างๆจะมีเรื่องพวกนี้ ยิ่งงานบุญบั้งไฟ อีพ๋อว่ามีเกือบทุกหมู่บ้าน (แต่ละหมู่จะมีขบวนแห่ของตนเอง) เพื่อให้สนุกสนาน หรือผู้ชายแต่งเป็นผู้หญิง



แต่ก็มีหลายคนมีหลาย ที่พยายามสร้างอิมเมจของตนเองเพื่อให้ดูดีเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของสังคม อีพ๋อก็ได้สอนชาวบ้านป่าว่า บางครั้งอิมเมจเราก็ต้องมีบ้าง แต่อย่าลืมว่ามีมากก็เหมือนกับน้ำที่มากับพายุ อย่ามีมากจนที่คนเขาเรียกว่า กระแดะ ดัดจริต แทนที่อิมเมจนั้นจะนำพาสุงกับนำพาให้ต่ำ

อีพ๋อบอกชาวบ้านป่าบ้านดอยว่า คนมีหลายคนที่พยายามเป็นกระจกให้คนอื่น แต่ไม่เคยเป็นกระจกให้ตัวเอง

ฟังเพลงแล้วอย่าคิดมากนะครับ คิดซ่ะว่ามันตลกดี

ชาวบ้านป่าบ้านดอย






ประเด็น
  • ประเด็นมีอยู่ว่าที่มีนักศึกษาเวียดนามมาด้วยเพราะ นักศึกษาเวียดนามมาอยู่ในแดนผู้ไทย ชาวบ้านป่าบ้านดอยก็มาอยู่ในแดนผู้ไทยเช่นกันก็เลยมีเกริ่นเกี่ยวกับนักศึกษาเวียดนาม

  • มีเพลงที่หลายคนคิดว่าลามกน่าเกลียด แค่ชาวบ้านป่าคิดเหมือนที่ตาบอกว่าเพลงพวกนี้คือศิลปศาสตร์ชนิดหนึ่ง ก็เลยต่อมาเรื่องนี้ครับ

  • จากเพลงก็เลยขอเข้ามาเรื่องภูมิปัญญาชาวบ้าน

  • และประเด็นสุดท้ายเกี่ยวกับอะไรหลายๆอย่างในโลกนี้ครับ บางคนว่าไม่ดี แต่อีกมุมก็มีประโยชน์ (นึกภาพก็คือวัคซินครับ วัคซินคือเชื้อโรคนั้นเอง คนเรียนด้านสุขศึกษาว่าจริงใหมครับ)








  • และแล้วก็เป็นเรื่องครับ 55555

    มีเสียงตอบรับต่างๆนานาเกี่ยวกับเพลงที่เปิด มีเพื่อนร่วมงานชาวบ้านป่าแกทำงานแถวสนามบินสุวรรณภูมิโทรมาคุยเล่นๆกับชาวบ้านป่าแล้วบอกเลยว่ากล้าเอาเพลงนี้ขึ้น Blog ได้ยังงัย และเพื่อนที่ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ก็บอกเลยว่าน่าเกลียด ลามกมากเลยเพื่อน 5555555555555555
    ชาวบ้านป่าได้แต่ถามต่อว่าแล้วเจ้าว่าอะไรลามก แกมาเพลงครับ (ชาวบ้านป่าทายเลยว่าเขาฟังจนจบเพลง 55555)
    นี้แหละครับ คนว่าขี้มันเหม็นก่ะต้องรู้ว่าขี้มันมีประโยชน์ 555555 (หรือเขาอยากแนะนำชาวบ้านป่าก็ไม่รู้) แต่ชาวบ้านป่าก็บอกแล้วนะว่า ความคิดใครความคิดมัน
    ถ้าเปรียบบ้านหลังนี้ (http://chawdoy.blogspot.com/) บ้านชาวบ้านป่า ชาวบ้านป่าไม่ได้ทำให้เขาเดือดร้อน เขาอาจจะบอกว่าคนที่อายุน้อย เยาชนอาจจะเอามาเป็นประเด็น 55555 ถ้างั้นจึงขอตามใจคนอ่านบทความชาวบ้านป่าหน่อยนะครับ (แต่เพลงไม่ขอเอาออก เจ้าบ่อฟังก่อปิดท่อนั้นหล่ะ) มันคือภูมิปัญญาชาวบ้าน(ตามความคิดอีพ๋อและความคิดชาวบ้านป่า) คนที่ไม่เคยทำนา คนที่ไม่เคยไถน่า คนที่สวมหมวกผู้ดีจะพูดว่า "รับไม่ได้" แต่ข่าวสารตามเว็บไซต์ต่างๆ ใส่น้อยห่มน้อย โป้ๆ ข่าวดาราทะเลาะกันจังแมนมันข่าวสร้างสรร น่าเกลียดทุเรศ (ถ้าข้อความแรงเกินไปอย่าว่าอะไรกันนะครับ) กว่าเพลงนี้อีก แล้วกลับยินดี บ้าบอคอแตกใหมครับ นี้คือทำจนเป็นเรื่องปกติ แต่พอมาเจอเพลงแบบนี้รับบ่อได้

    ใครว่ารับไม่ได้บอกด้วยนะว่าขึ้นไตเติ้ลแล้วว่าเหมาะสำหรับคนที่อายุเกิน 18 เท่านั้น อิอิ



    อย่าคิดมากหน่าครับบทความนี้ขอแรงๆหน่อย นุ่มนวนเกินเดียวเขาว่าเป็นตุด 5555555





    กรุณาใช้พิจารณญาณในการอ่านนะครับ ความคิดใครความคิดมันนะคงไม่ว่ากัน หรือถ้ามีความคิดเห็นยังงัยก็นำเสนอได้นะครับ